วัดกันเลย AI chat แต่ละที่ สร้างรูปภาพต่างกันยังไง โดยใช้โหมดฟรี
หลายๆ คนอาจเคยใช้พวกแชทจีพีที(ChatGPT) ในการทำงานต่างๆ แต่มีความสามารถหนึ่งที่แชทพวกนี้ทำได้ด้วย คือ การสร้างรูปภาพตามคำสั่งที่เราต้องการ ซึ่งเราสามารถให้ chat AI แต่ละที่สร้างรูปตามคำที่อยากได้ แค่ป้อนคำสั่งง่ายๆ โดยจะมาดูว่า chat AI แต่ละเจ้านั้นจะสร้างรูปภาพออกมาเป็นแบบไหน ต่างกันยังไงบ้าง ซึ่งเราเลือกมา 4 ที่ คือ ChatGPT, Copilot, Grok และ Deepseek โดยเราลองส่งคำสั่งไปในช่องแชทว่า: can you generate image: A pharmacist-themed mug - maybe with pills or a stethoscope doodle next to the coffee. ระหว่างส่งคำสั่งเสร็จต้องบอกว่าลุ้นมากว่ารูปจะออกมาเป็นไง เพราะบางทีก็คาดเดาอะไรไม่ได้จากแชทพวกนี้ แบบรูปจะใช้ได้บ้างใช้ไม่ได้บ้าง😅 แต่แล้วรูปก็ออกมาจนได้….ต้องบอกเลยว่าภาพที่ได้ออกมาคือ สไตล์ใครสไตล์มันมากๆ แบบยูนีคเป็นของตัวเองอยู่ ไม่มีการซ้ำกันเกิดขึ้นก็ว่าได้ สวยกันคนละแบบมากๆ มาดูกันเลย 1. ChatGPT มันก็ดูน่ารักอยู่ มีความชัด มีสไตล์เป็นของตัวเอง แต่ลายบนตัวแก้วอาจจะดูขัดหูขัดตาเล็กน้อยกับลายเส้น ควันที่ออกจากแก้วกาแฟคือสวยมากกกกก แต่มีความพลาดหนักมากตรงตัวหนังสือนะ แบบคำว่า Pharmacist คือคำว่าอะไรเอ่ย 😑??? ...
เมื่อเภสัชกรไปหาหมอโดยใช้สิทธิประกันสังคม
พูดถึงประกันสังคม ช่วงนี้ที่มีข่าวฮ็อตฮิต ทำให้เรานึกถึงวันที่ใช้สิทธินี้เหมือนกัน ซึ่งอาจจะผ่านมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ลืม เพราะหงุดหงิดทุกครั้งที่ต้องไปโรงพยาบาลด้วยโรคเล็กๆ น้อยๆ ทำไมถึงใช้สิทธิประกันสังคม เช้าๆ ตื่นมาพร้อมกับอาการคอเคล็ด ที่แบบเจ็บ แบบมากๆๆๆๆๆ แบบขยับทีนี้ร้องโอ้ยได้เลย นั่งคอตรงยังไม่ได้เลยค่ะ😂 ก็เลยต้องลางาน แต่อย่างที่รู้ๆ หลายๆ ที่ หากจะลางานต้องใช้ใบรับรองแพทย์ ถามว่าทำไมถึงไปหาหมอ เอาตรงๆ เพราะจะมาเอาใบรับรองแพทย์ไปให้ที่ทำงานนี่แหล่ะ ไม่ได้อยากมาเลยสักนิด….เราหายากินเองได้อยู่แล้วเพราะเราเป็นเภสัชกร จริงๆ ก็แค่อยากกินยาแก้ปวดแล้วนอนไปเฉยๆ ทำไมคนป่วยต้องลำบากถ่อไปโรงพยาบาลเพื่อไปนั่งรอเข้าตรวจเป็นชั่วโมงด้วยนะ ถึงแม้เราจะเป็นเภสัชกรที่รู้เรื่องยา แต่ลาป่วยก็ต้องใช้ใบรับรองแพทย์เหมือนกัน อาจจะดูงงๆ แบบทำไมต้องใช้ เราเป็นเภสัชกรก็ดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว หยิบยากินเองไปสิ ซึ่งก็จริง คิดแล้วมันก็ตลก หลายๆ เรื่องมันไม่เมคเซ้นท์เลย บุคลากรทางการแพทย์ก็ต้องใช้ใบรับรองแพทย์เหมือนกัน ไม่มีข้อยกเว้น แต่จะไปโรงพยาบาลเอกชนก็รู้สึกเปลืองเพราะเราแค่จะเอาใบรับรองแพทย์ กับยาเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น ไม่ไปดีกว่า…ก็คงต้องยอมนั่งรอนานๆ เพื่อเจอหมอจากสิทธิประกันสังคมตามระเบียบ “เพียงเพื่อกระดาษ 1 ใบถ้วน” 😐 แต่ไปหาหมอแล้วเจอเรื่องช็อคกว่าที่คิด… พอไปถึงโรงพยาบาล เราบอกหมอว่าเจ็บคอ อาจจะพูดไม่ชัดเจนเท่าไรลืมนึกไปว่าคำนี้ความหมายมันได้หลายแบบ ลืมบอกหมอว่าเจ็บคอที่หมายถึงเจ็บที่แถวๆคอ(ปวดคอ) หมอก็ส่องกล้องเข้าไปในคอเลย เราก็เอะใจละ เดี๋ยวบอกว่าไม่ได้เจ็บด้านใน แต่หมอก็รีบเหลือเกิ๊นนนนนน…. ส่องเสร็จรีบบอกว่าเดี๋ยวให้ยาฆ่าเชื้อ เราก็อึ้งไป…แล้วก็บอกหมออีกทีว่าเจ็บด้านนอกค่ะ แบบปวดคอ ขยับแล้วเจ็บ เค้าก็ออๆ งั้นเดี๋ยวให้ยาแก้ปวดไปนะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราอึ้ง ก็เพราะว่าเราไม่ได้เจ็บคอด้านใน พอตรวจด้านในแล้วหมอจะจ่ายยาฆ่าเชื้อสำหรับอาการเจ็บคอที่อยู่ด้านในปากเรา ซึ่งเราไม่ได้เป็นอะไรเลย ก็คือยาที่หมอกำลังจะให้ไม่ตรงกับโรคที่เราเป็น แล้วหมอก็ไม่ถามเราให้ดีก่อนด้วยว่าเจ็บตรงไหนอะไร ยังไง ต้องให้เราพยายามบอกเอง อาจจะเพราะความรีบเป็นเหตุ เท่าที่เราเข้าใจหมอที่รับหน้าเราก็ยังดูวัยรุ่นอยู่ น่าจะจบใหม่มาไม่นานด้วย ทำให้เราเข้าใจเลยว่าถ้าคุณจะคาดหวังหาการรักษาที่ดีจากประกันสังคมก็คงจะยากจริงๆแหละ ถ้าเป็นคนอื่นอาจรับยาไปแล้ว แต่เพราะเราเป็นเภสัชกรก็เลยรู้ว่าหมอกำลังเข้าใจเราผิดอยู่…แล้วจริงๆ การให้ยาฆ่าเชื้อกับคนไข้ทุกวันนี้ก็ควรคิดให้ดีก่อนด้วย ถ้าคนไข้ไม่ได้ติดเชื้อจริงๆ ให้ยาฆ่าเชื้อไปแล้วส่งผลเสียมากกว่าด้วยนะสิ ซึ่งเราที่เป็นเภสัชกรไม่ยอมกินยาฆ่าเชื้อแน่ๆ ถ้าเรารู้ตัวเองว่าไม่ได้ติดเชื้อ ...
เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 30 โอ้ย…หลังฉัน
ตื่นนอนมาก็พบกับความรู้สึกว่า เอ้า ตื่นแล้วหรอ นาฬิกายังไม่ปลุกเลย 😂 ถ้าเป็นเมื่อก่อนยังไงก็ตื่นหลังนาฬิกาปลุกแน่ๆ เงยหน้ามาอีกทีก็ค้นพบว่านี่เราเลยอายุ 30 มาสักพักแล้วนี่หว่า ที่น่าตกใจอีกอย่างคือเริ่มมีผมหงอกจากตรงกลาง พอลองคุยกับเพื่อนปรากฏว่าไม่เห็นมีใครเค้าหงอกกัน แต่นึกขึ้นได้ว่าพ่อเราผมหงอกไวมากๆ สงสัยได้ dna มาเต็มๆ แค่คิดก็ท้อแท้ละ…เห้อ แต่ก็ยอมรับได้แหละ เราเปลี่ยน dna ตัวเองไม่ได้ ถ้าหงอกมากๆ วันหน้า ยาย้อมก็มีขายทั่วไป แสดงว่าคนอื่นเค้าก็ผมหงอกกัน แค่เราอาจจะเร็วไปสักนิด ถึงแม้ว่าอายุจะเข้าเลข 3 แล้วแต่ความชอบกินยังมีอยู่ล้นเหลือ ทุกอาทิตย์จะต้องไปกินบุฟเฟต์กับเพื่อนสักมื้อ กินเสร็จต่างคนต่างมองหน้ากันแบบ เอ่อ อิ่ม แน่นนนน ไปหมดด สงสัยต้องเลิกกินบุฟเฟต์แล้วมั้ง แต่สุดท้ายก็กลับมากินอยู่ดี ยาช่วยย่อยก็ต้องพกติดตัวไว้แล้วสินะ หลังจากตื่นนอนถ้าวันนั้นปวดหลังละก็อีกหลายวันเลยกว่าจะหาย ทั้งที่เมื่อก่อนแทบไม่ปวด กินพาราช่วยไปก็ดีขึ้นมานิดนึง แต่ก็ดีกว่าไม่กินละกัน รู้สึกกังวลกับการเดินทางมากขึ้น มองรถ มองถนนแล้วรู้สึกว่าอันตราย เห็นมอเตอร์ไซค์ขับผ่านไปเร็วๆ แล้วรู้สึกเสียวว้าบบแทน ไม่ค่อยอยากขับรถไปไหนไกลๆ ดึกๆ ยิ่งไม่อยากออก ได้แต่ถามตัวเอง นี่เราเหมือนคนแก่รึป่าวนะ อายุ 30 กว่าๆ ก็ไม่ได้เยอะมากเท่าไรมั้ง แต่วิธีมองชีวิตเราเปลี่ยนไปมาก ระวังมากขึ้น กลัวมากขึ้น เริ่มเข้าใจเลยว่าทำไมเค้าถึงบอกว่าช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่ควรใช้ชีวิต เพราะในหัวก็โล่ง ยังไม่ค่อยกังวลเรื่องอะไรต่างๆ นานาๆ ร่างกายก็เอื้ออำนวยสุดๆ แต่ถามว่ามีความสุขไหมก็ต้องบอกว่ามีมากๆ ทุกครั้งที่ได้กินของอร่อยก็อารมณ์ดีละ ขาดก็แต่ความรู้สึกที่แบบภูมิใจในตัวเองมันยังไม่ค่อยมาเท่าไร เพราะคาดหวังกับชีวิตไว้ว่าอยากให้ดีขึ้น อยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องทำงานประจำ แต่พอยังแบบใช้ชีวิตธรรมดาๆ ไม่ได้ก้าวหน้าอะไรก็อดท้อไม่ได้ แต่ก็รู้สึกแฮปปี้ที่ทุกวันนี้ถึงยังไม่ได้ก้าวหน้าแต่ก็ได้ทำในสิ่งที่ชอบ “เพราะอย่างน้อยจะได้ไม่มาเสียใจทีหลังถ้าเลือกที่จะไม่ทำ”👍 ...
รีวิว ลืมรหัสเข้าแอพ UOB tmrw ต้องทำอะไรบ้าง
วันก่อนมีโอกาสเปลี่ยนมือถือใหม่ อย่างที่รู้ๆกันว่าถึงแม้ว่าจะถ่ายโอนแอพต่างๆ จากเครื่องเก่ามาได้ แต่แอพธนาคารเนี่ยจะต้องล็อคอินใหม่ คือจะต้องทำอะไรที่ยากขึ้นมาอีกหน่อย เช่น ต้องขอ OTP เข้าเครื่องใหม่ ใส่เลขบัตรประชาชน บลาๆๆๆ แต่ทุกธนาคารคือสามารถทำได้ภายในวันนั้นจะติดก็แต่แอพ UOB tmrw ที่หากลืมรหัสเราไม่สามารถกู้ผ่าน OTP หรือ E-mail ใดๆ ได้ ก็เลยต้องไปธนาคารตามระเบียบ คุยกับเจ้าหน้าที่ พอไปถึง ค่อยยังชั่วหน่อยที่รอไม่นานก็ได้คิวแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ขอบัตรประชาชนตามระเบียบ แล้วเค้าก็หา Username ให้เรา แล้วให้เราลองกด password เอา เราก็ลองอยู่สักพัก สรุปว่าไม่รอด ลืมจริงๆ 😔 ก็เลยบอกเจ้าหน้าที่ไปว่า เข้าไม่ได้ ต้องทำยังไงบ้าง? เค้าก็แนะนำให้เราใช้ pin กดเงินของบัตรเครดิตมากดกู้คืนได้ แต่เราเองก็ไม่เคยใช้บัตรเครดิตกดเงินสด ใบนั้นก็ไม่ได้เก็บไว้ ก็เพิ่งรู้วันนี้ว่ามันสามารถใช้ในเคสนี้ได้ด้วย ก็เลยบอกไปว่าไม่มีใบนั้น เจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ขอไปใหม่ ซึ่งใช้เวลา 4-5 วันถึงจะได้ แล้วให้เลือกว่าจะรับที่บ้านหรือที่สาขา เราก็สงสัยว่าแต่ในแอพนี้นอกจากมีบัตรเครดิตแล้วยังมีบัญชีเงินฝากปกติด้วยนะ ตรงนั้นใช้ไม่ได้ด้วยหรอ เจ้าหน้าที่ก็แจ้งกลับมาว่าสามารถโอนได้ที่สาขาโดยใช้บัตรประชนใบเดียว ความคิดเห็นส่วนตัว ที่งงสุดๆ คือเข้าแอพไม่ได้ ต้องใช้เลข pin กดเงินของบัตรเครดิตเพื่อเข้า แต่ถ้าคนไม่มีบัตรนี่เค้าจะแก้ให้ด้วยวิธีไหนหรอ แล้วพอนึกถึง 4-5 วันแล้วก็รู้สึกว่าหากเรามีธุระต้องใช้บัญชีในนั้นนี่ก็ต้องไปสาขาอย่างเดียว ซึ่งรู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร ทำไมที่อื่นเค้าไม่ยุ่งเท่านี้?? ได้แต่หวังว่าในอนาคตเค้าจะทำให้สะดวกกว่านี้
เที่ยวแบบคน Gen Y: ปริ้นทุกอย่างก่อนออกเดินทาง ดีแบบที่คาดไม่ถึง
วันนี้มีเรื่องราวดีๆ จากผู้ใช้ tiktok ซึ่งคงเป็นประโยชน์กับทุกๆ คนได้ในการไปเที่ยวต่างประเทศ คุณ@lifewithjj :ผู้ใช้ tiktok, january 1, 2025 Gen Y ปริ้นเอกสารเป็นปึ้งงงงก่อนเที่ยว คุณ@lifewithjj แชร์วีดีโอถือกระดาษที่ปริ้นตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพลนเที่ยว และรถไฟ ตั๋วเข้าชม ประกัน ซึ่งมีปริมาณกระดาษพอกับรายงานหนึ่งเล่มเลยก็ว่าได้😮 ซึ่งคลิปนี้ก็เป็นไวรัล และเป็นที่เข้าใจในหมู่ Gen Y ด้วยกันว่าทำเหมือนกัน อาจจะดูว้าวมาก เพราะสมัยนี้จะเน้นเก็บทุกอย่างในมือถือ ไม่เหมือนสมัยก่อน(บ่งบอกอายุเลยนะเนี่ย🤣) ดียังไง? มีคอมเม้นท์ส่วนหนึ่งที่บอกด้วยว่า แก~~ เคยมีคนติดตมเกาหลีแต่รอดเพราะเอกสารนะ เพราะพอโดนเรียกปุ๊บนางยึดมือถือไปเลย แล้วอย่างเกิดแบตหมด มือถือหาย/พังอีก 😂🥺—@Little_rain95 เราเคยปริ้นไปเผื่อค่ะแค่2ชุด เพราะsaveทุกอย่างในiPadแล้ว สรุป สายการบิน(ขาไป)และ ตม.ที่ประเทศนั้น ขอเอกสารแบบแผ่นๆค่ะ อาจจะเป็นเพราะเป็นประเทศที่คนไทยอาจจะไปไม่เยอะมาก โชคดีไปค่ะ😁—@กอมมอง กอมมอง เผื่อเน็ตไม่ดี แบตมือถือหมดไง😂—@What the d(f)uck เห็นแล้วก็ต้องบอกว่า เอออ…ประโยชน์เยอะกว่าที่คิดมากๆ แบบบางเรื่องเราก็ไม่ได้นึกมาก่อน นอกจากนั้นคลิปนี้ยังถูกแชร์ไปใน X app ด้วย ซึ่งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงประโยชน์ของการปริ้นท์เอกสารต่างๆ ไปต่างประเทศไว้ แบบมีประโยชน์มากๆ โดยเฉพาะหากใครที่เที่ยวคนเดียว ...
มันหวานแบบดองกิ(ญี่ปุ่น)ทำยังไง?
เนื่องจากเราเป็นคนชอบกินมันหวานมากๆ พูดถึงเวลาเราซื้อมันญี่ปุ่นมาต้มหรือเผาเอง จะรู้สึกว่าทำไมมันไม่อร่อยเหมือนที่เค้าทำ แต่พอดูอันนี้แล้วจะถึงบางอ้อว่า…เค้ามีขั้นตอนการทำที่ไม่ได้แค่ต้มธรรมดา เรื่องราวที่น่าสนใจนี้มาจากคุณ @Lingkung1992, X post วิธีการทำคร่าวๆ ล้างทำความสะอาด แช่น้ำ 30 นาที เอาไปต้มแบบใช่น้ำที่แช่ไว้หรือเปลี่ยนน้ำก็ได้ พอเดือดแล้วลดไฟให้เหลือไฟกลาง ประมาณ 30 นาที เอาไปเผาต่อ หรืออบ ที่ 185-200 องศา ประมาณ 45-60 นาที โดยคุณ @Lingkung1992 มีการแชร์เพิ่มเติมว่า การต้มจะทำให้เม็ดแป้งสุก เกิดการ gelatinized อุ้มน้ำเอาไว้ไม่ปล่อยไปไหน ทำให้มีความชุ่มชื้น การเผาจะทำให้เกิดการ dehydrated คือทำให้ความชื้นระเหยออกไป และเกิด caramelized ด้วยความร้อนที่สูงถึง 200 องศาทำให้น้ำตาลในมัน เริ่มเปลี่ยนสภาพเป็นคาราเมล ทริกเพิ่มสำหรับคนไม่รีบ: ตอนต้มให้ปิดฝา ต้มเสร็จปิดไฟ ปิดฝารอให้ระอุจนหายร้อนแล้วค่อยอบ ลองทำดูแล้วเป็นอย่างไร? มาส่งการบ้านค่ะ ขอบคุณพี่เจ้าของทวิตมากจริงๆในที่สุดก็ได้กินมันหวานแบบดองกี้แล้ว ตอนที่ทำต้องดูเตาอบแต่ละแบบ อันนี้อบประมาณ1ชม. 10นาที ปิดแล้วให้น้องอยู่ข้างในต่อไปสักพักก็หยิบออกมากิน อร่อยมากกกกก หวานนน พี่เราบอกแกแอบใส่น้ำตาลหรอ ปลาบปลึ้มมากค่ะ🙏🏻😍—@DarkSunshinez สามารถอ่านทริกวิธีการทำเพิ่มเติมได้ใน post ด้านล่างนี้เลย! From this X post: @Lingkung1992, june 4, 2021
ประกันแบบ Copayment ไม่ได้แย่อย่างที่คิด?
ประกันแบบ Copayment คืออะไร ถกเถียงกันเรื่องประกันสุขภาพแบบ Copayment ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร ใครได้ใครเสีย